ตลาดลุ้นเงินเฟ้อสหรัฐ-ประชุม กนง. กดดันเงินบาทแข็งค่า 32.80 บาท/ดอลลาร์

เศรษฐกิจ (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

แบงก์ประเมินกรอบค่าเงินบาทเคลื่อนไหว 32.80-33.30 บาท/ดอลลาร์ จับตาตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค.สหรัฐ-การประชุม กนง.ส่งสัญญาณกังวลเงินเฟ้อ-ปรับนโยบายดอกเบี้ยสหรัฐ ด้านกระแสเงินทุนจำกัด กดดันเงินบาทแข็งค่า

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565 นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า (วันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ 2565) เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.80-33.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามจะเป็นการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธที่ 9 ก.พ.นี้ โดยตลาดจะรอดูแถลงการณ์ของ กนง.ถึงความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น และการส่งสัญญาณปรับดอกเบี้ยขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

อย่างไรก็ดีเชื่อว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (RP) ไว้ที่ระดับ 0.50% ต่อปี แต่มติการโหวตของคณะกรรมการอาจเห็นเสียงแตก

นอกจากนี้ ตลาดยังรอดูการรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนมกราคมของสหรัฐที่จะออกมา ซึ่งจะมีผลกับตลาดค่อนข้างมาก หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาค่อนข้างสูง สอดคล้องกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร สะท้อนไปยังตัวเลขค่าจ้าง ซึ่งจะมีผลต่อค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า และเงินบาทอ่อนค่าไปแตะระดับกรอบบนที่ระดับ 33.30 บาทต่อดอลลาร์ได้

“ตัวไฮไลต์ที่ตลาดรอดูและมีผลต่อค่าเงินจะเป็นตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค.ของสหรัฐที่จะออกมาหวือหวาขนาดไหน เพราะสะท้อนจากตัวเลข non farm payroll ด้วย แต่เชื่อว่ายังไม่น่าจะหลุดกรอบบน”

สำหรับกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าตลาดหุ้นมียอดซื้อสุทธิราว 2,280 ล้านบาท ถือว่าไม่สูงมาก เนื่องจากอยู่ในช่วงวันหยุดยาวตรุษจีน โดยตลาดพันธบัตร (บอนด์) มียอดขายสุทธิราว 70 ล้านบาท ซึ่งต่างชาติเก็งกำไรระยะสั้น

โดยในสัปดาห์หน้าประเมินฟันด์โฟลว์ในตลาดหุ้นยังไหลเข้าสุทธิแต่เป็นบวกไม่มาก เนื่องจากหุ้นไทยยังคงได้รับการสนับสนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่บอนด์อาจเห็นไหลเข้าเล็กน้อย แต่คงไม่ถึง 1,000 ล้านบาท เพราะไม่มีประมูลบอนด์ ทำให้เห็นการซื้อขายสลับกัน อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามประเด็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นประเด็นความเสี่ยงที่ไม่สามารถคาดเดาได้

นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการสายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรอบเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้าอยู่ที่ 32.80-33.30 บาทต่อดอลลาร์ โดยตลาดติดตามเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ของสหรัฐเป็นสำคัญ ซึ่งคาดว่าอาจสูงกว่าของเดือน ธ.ค. ซึ่งประกาศออกมาอยู่ที่ระดับ 7.0%

ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดการณ์ผลการประชุม กนง.จะคงดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี

อย่างไรก็ดี อาจต้องติดตามราคาน้ำมันที่พุ่งสูงสุดในรอบ 7 ปี ทำให้เงินบาทยังคงแข็งค่าเป็นอันดับต้นของกลุ่มในปีนี้จากความหวังเรื่องการเปิดรับนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ ขณะที่นักลงทุนปรับสถานะหลังขายเงินบาทตลอดปีที่ผ่านมา โดยผลกระทบจากการปรับคาดการณ์นโยบายของเฟดสู่การคุมเข้มอย่างแข็งกร้าวยังกระทบ fund flow ค่อนข้างจำกัด

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance